ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่ง

หลาย ๆ คนที่มีความไม่มั่นใจกับใบหน้า เช่น มีริ้วรอยแห่งวัย มีรูปหน้าไม่ได้สัดส่วน หรืออยากปรับเติมรูปหน้าให้ได้แบบที่ต้องการ อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ เนื่องจากเป็นวิธีทางการแพทย์ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว และมีรีวิวการันตีมากมาย แต่จริง ๆ แล้วฟิลเลอร์คืออะไร ฟิลเลอร์มีลักษณะแบบใด ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง และ ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน บทความนี้มีคำตอบ

ฟิลเลอร์คืออะไร?

ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (ไฮยาลูรอนิค แอซิด) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า HA เป็นสารที่ใช้เติมเต็มผิวชั้นในผิวหนังและใต้ผิวหนัง เป็นสารที่ผลิตขึ้นมาเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกาย ช่วยทดแทนโครงสร้างร่างกายที่หายไป สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอยและหย่อนคล้อย อีกทั้งยังสามารถปรับโครงสร้างใต้ชั้นผิว เติมเต็มจุดบกพร่องบนใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ใบหน้ามีความเต่งตึง ร่องลึกดูตื้นขึ้น ช่วยทำให้ดูอ่อนกว่าวัยได้

ฟิลเลอร์มีลักษณะแบบใดบ้าง และ ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน?

ฟิลเลอร์ในปัจจุบัน จะสามารถอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละบริเวณที่ฉีด ซึ่งถือเป็นเวลาที่เหมาะสมต่อผิวหนังและจะค่อยๆ สลายไปเองโดยธรรมชาติ จึงไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว นับเป็นข้อดีของฟิลเลอร์ เพราะหากคนไข้ไม่พอใจในผลลัพธ์ ฟิลเลอร์ก็จะค่อยๆ ยุบและสลายไปเองได้ในที่สุด

ตัวอย่างฟิลเลอร์ในปัจจุบัน เช่น ฟิลเลอร์ชนิดที่ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ดูนุ่มนวลขึ้นได้ หรือชนิดที่มีความคงตัว ที่สามารถใช้ปรับโครงหน้าได้ เป็นต้น ซึ่งฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีของแต่ละแบรนด์ที่ใช้ในการผลิตฟิลเลอร์ด้วย โดยบทความนี้จะยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ฟิลเลอร์จากบริษัท Galderma และแบ่งชนิดของฟิลเลอร์ตามลักษณะของเนื้อฟิลเลอร์ เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

1. ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด

เป็นฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเนื้อเหลว มีความคงรูปต่ำ เบาบางเหมือนน้ำ เหมาะกับการฉีดผิวชั้นตื้น ผิวที่มีความบาง  เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์หลังมือ เป็นต้น เพื่อเติมเต็มให้ผิวดูมีความอิ่มน้ำ ดูเรียบเนียน

ตัวอย่างฟิลเลอร์เนื้อนิ่มที่แนะนำ คือ ฟิลเลอร์ผลิตภัณฑ์ Vital Light Original Skinbooster  จาก สวีเดน มีอายุประมาณ 6 เดือน

2. ฟิลเลอร์เนื้อความแข็งปานกลาง

เป็นฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเนื้อเจล มีความคงตัวกว่าฟิลเลอร์ชนิดเนื้อนิ่ม แต่ยังมีความนุ่ม ยืดหยุ่น ไม่เป็นก้อน เหมาะกับการฉีดผิวชั้นไขมันและคนที่มีผิวบางแต่อยากเติมเต็มรูปหน้าให้ดูมีความนุ่มนวลมากขึ้น บริเวณที่ฉีด เช่น ฉีดฟิลเลอร์ปาก ขมับ หน้าผาก ร่องน้ำหมาก เป็นต้น

ตัวอย่างฟิลเลอร์เนื้อกลางที่แนะนำ คือ ผลิตภัณฑ์ Volyme จาก สวีเดน มีอายุประมาณ 18 เดือน

3. ฟิลเลอร์เนื้อความแข็งสูง

เป็นฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเนื้อแข็งมีความคงตัว ขึ้นทรงเป็นรูปได้ดี ทำให้สามารถยกผิวได้ดีที่สุด เหมาะกับการฉีดเพื่อทดแทนโครงสร้าง ปรับรูปหน้า รูปคาง ดูมีมิติเห็นได้อย่างชัดเจน เหมาะสำหรับคนที่มีผิวหนา หรือคนอายุเยอะที่มีปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ตัวอย่างฟิลเลอร์เนื้อแข็งที่แนะนำ คือ  ผลิตภัณฑ์ Lyft จาก สวีเดน มีอายุประมาณ 24 เดือน

ฉีดฟิลเลอร์ช่วยเรื่องอะไรบ้าง? แบ่งออกเป็นข้อ ๆ ให้เข้าใจง่าย

  1. แก้ปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อย ให้ดูกระชับและดูสดใสขึ้นได้
  2. ปรับรูปหน้าให้ดูสมมาตร เป็นธรรมชาติได้
  3. ช่วยยกกระชับ แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่เต่งตึง
  4. เพิ่มความชุ่มชื้น เสริมคุณภาพผิว เพื่อผิวดูอ่อนเยาว์ สุขภาพดี
  5. แก้ไขจุดบกพร่องหรือปรับรูปทรงปากให้เป็นแบบที่ต้องการได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก
  6. ช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้ใบหน้าได้ เช่น ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ให้เป็นทรงที่ได้สัดส่วน เป็นต้น

ใครที่เหมาะจะฉีดฟิลเลอร์?

1. เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึกบริเวณต่าง ๆ เช่น ร่องลึกมุมปาก ร่องน้ำหมาก  
หน้าผาก รอบดวงตา เป็นต้น

2. ผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตา กระดูกเบ้าตายุบตัวมีร่องลึก หรือใต้ตาคล้ำ

3. ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า เช่น คาง ปาก จมูก หน้าผาก เป็นต้น

4. ผู้ที่ต้องการดูแลผิวให้คงความอ่อนเยาว์ ดูสุขภาพดี

5. ผู้ที่ต้องการแก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้าให้ดูสมส่วน เป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ที่มีมาตรฐานเป็นอย่างไร?

การฉีดฟิลเลอร์ที่ปลอดภัย จะต้องใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองโดยอย. ไทย การเช็คฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานสามารถเช็คได้ดังนี้

  • มีเลขทะเบียน อย.
  • มีฉลากภาษาไทยระบุอย่างชัดเจน
  • มีวันหมดอายุระบุอยู่ข้างกล่อง (อายุของฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับแต่ละผลิตภัณฑ์)
  • เลข Lot ที่ข้างกล่องฟิลเลอร์ กับเลข Lot ที่หลอดฟิลเลอร์ ตรงกัน 2-3 จุด แล้วแต่รุ่นผลิตภัณฑ์

สำหรับผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์นวัตกรรม NASHA&OBT สามารถเช็คเลข Lot ได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้าฟิลเลอร์ Restylane นวัตกรรม NASHA&OBT เจ้าเดียวในไทย หรือ ตรวจสอบฟิลเลอร์แท้โดยการสแกน QR Code ผ่านแอปพลิเคชัน eZTracker ตัวช่วยสำหรับการตรวจสอบฟิลเลอร์

ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

การฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือ ฉีดฟิลเลอร์ปลอมเข้าสู่ร่างกายนั้นมีความอันตรายมาก เมื่อฟิลเลอร์โดนความร้อนอาจเกิดอาการฟิลเลอร์ย้อย ผิดรูป หรือ ฟิลเลอร์แข็ง เป็นก้อน ในรายที่มีอาการรุนแรง อาจเกิดเนื้อตาย ตาบอด และหากฟิลเลอร์ปลอมเข้าสู่กระแสเลือด อาจทำให้เส้นเลือดแตก อุดตัน และเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตได้ ดังนั้นก่อนเลือกฉีดฟิลเลอร์จะต้องเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีใบอนุญาตเท่านั้น เพราะแพทย์ที่มีใบอนุญาตจะมีสิทธิ์สั่งซื้อฟิลเลอร์แท้ได้

ฟิลเลอร์ฉีดตรงจุดใดได้บ้าง และแต่ละจุดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน?

การฉีดฟิลเลอร์สามารถปรับแต่งรูปหน้าหรือแก้ไขจุดบกพร่องได้หลายจุด โดยทั่วไปฟิลเลอร์ที่ผ่านมาตรฐาน อย. จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี (ขึ้นอยู่กับแต่ละบริเวณที่ฉีด) จากนั้นจะค่อย ๆ สลายไป ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยจุดที่สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ มีดังนี้

  1. ใต้ตา - เติมใต้ตาที่ลึกให้ตื้นขึ้น ดูสดใส รอยคล้ำและริ้วรอยใต้ตาลดลง

ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดใต้ตา ที่แนะนำ คือ ฟิลเลอร์ผลิตภัณฑ์ Vital Light

ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน : ประมาณ 6-8 เดือน

  1. ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก - เติมร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น ผิวดูยกกระชับ คืนความอ่อนวัยให้กับผิว

ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดใต้ตา ที่แนะนำ คือ ฟิลเลอร์ผลิตภัณฑ์ classic

ฟิลเลอร์ร่องแก้มอยู่ได้นานแค่ไหน : ประมาณ 8-12 เดือน

  1. คาง - ปรับรูปหน้า รูปคางให้ดูยาว สมส่วนอย่างเป็นธรรมชาติ หน้าดูเรียวขึ้นได้

ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดใต้ตา ที่แนะนำ คือ ฟิลเลอร์ผลิตภัณฑ์ Lyft

ฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานแค่ไหน : ประมาณ 12-18 เดือน

  1. ขมับ - เติมเต็มใบหน้าให้ได้สัดส่วน ดูมีมิติ

ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดใต้ตา ที่แนะนำ คือ ฟิลเลอร์ผลิตภัณฑ์ Volyme

ฟิลเลอร์ขมับอยู่ได้นานแค่ไหน : ประมาณ 12-18 เดือน

  1. ริมฝีปาก - ปรับรูปปาก แก้ปัญหาปากบาง ไม่ได้สัดส่วน ยกมุมปากให้เป็นทรงสวย หรือ เติมเต็มให้ดูอวบอิ่มได้ตามต้องการ

ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดริมฝีปาก ที่แนะนำ คือ ฟิลเลอร์ผลิตภัณฑ์ Refyne

ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานแค่ไหน : ประมาณ 12 เดือน

โดยผลิตภัณฑ์ที่ยกตัวอย่างนี้ คือ ฟิลเลอร์นวัตกรรม NASHA&OBT เป็นฟิลเลอร์สวีเดน ที่มีชื่อเสียง ได้มาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับ เป็นหนึ่งในฟิลเลอร์ที่นิยมใช้อย่างมากในไทย เมื่อเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน  จะทำให้ระยะเวลาของฟิลเลอร์อยู่ได้ยาวนานกว่ายี่ห้อที่ไม่ได้มาตรฐานอีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์นวัตกรรม NASHA & OBT โดยคลินิกต่าง ๆ

จากผู้ใช้จริง หลังฉีดฟิลเลอร์ นวัตกรรม NASHA&OBT พบว่าสามารถ เติมเต็มให้ใบหน้าดูกระชับขึ้น แต่ยังดูเป็นธรรมชาติ ได้รับการรับรองจาก US FDA และ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งประเทศไทย

บริการอื่น ๆ ของ Galderma

บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ ฟิลเลอร์ Restylane ฟิลเลอร์นวัตกรรม NASHA&OBT เพียงเจ้าเดียวในประเทศไทย มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นของแท้และมีมาตรฐาน สวยได้อย่างมั่นใจ และนอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ความงามอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Original SKINBOOSTERS เติมผิวให้สวย ดูสุขภาพดี ใบหน้าเงา ผิวหน้าฉ่ำวาวอย่างเป็นธรรมชาติ และ ABO ACTIVE นวัตกรรมโบอังกฤษ ลดริ้วรอยอย่างตรงจุด ผิวชุ่มชื้นอิ่มฟู แข็งแรงจากภายใน ผลลัพธ์ยาวนานถึง 1 ปี ตอบโจทย์สาว ๆ ได้ทุกปัญหาผิว

Q & A: คำถามที่พบบ่อยในการฉีดฟิลเลอร์

Q: ดูแลตัวเองอย่างไร หลังฉีดฟิลเลอร์?

A: 

  • ไม่จับ แกะ หรือเกาบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
  • รับประทานยาฆ่าเชื้อตามที่หมอสั่ง หลังฉีดฟิลเลอร์
  • อยู่ในสถานที่ที่มีอากาศเย็น งดออกกำลังกาย และไม่ควรทำกิจกรรมหรืออยู่ในที่ที่มีอากาศร้อน
  • ไม่ทำเลเซอร์อย่างน้อย 1 เดือน
  • ไม่ควรขยับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์บ่อยๆ ในช่วง 3 วันแรก
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด รวมถึงอาหารหมักดอง อาหารรสจัด ไม่ควรทำอาหารหน้าเตาร้อน ๆ และไม่ควรสูบบุหรี่จนกว่าฟิลเลอร์จะเข้าที่

 

Q: จะมีอาการข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์บ้างไหม?

A: รอยแดงจากเข็มที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์ที่สามารถหายได้เองภายใน 3 วัน หากใครมีอาการบวมแดงเกินกว่า 5-7 วันควรรีบพบแพทย์

 

Q: ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม?

A: หากกลัวเจ็บ ก็สามารถขอให้แพทย์ทายาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์ได้ แต่ฟิลเลอร์บางยี่ห้อหรือบางรุ่นจะมียาชาผสมอยู่แล้ว จึงไม่ทำให้รู้สึกเจ็บขณะฉีด

  

Q: ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีที่สุด?

A: ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการฉีดฟิลเลอร์บริเวณไหน เพราะคุณสมบัติของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่นมีข้อดีและข้อจำกัดไม่เหมือนกัน